ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

เรื่องการสืยพันธุ์ของปลา

การสืบพันธุ์ของปลา


สามารถแบ่งการสืบพันธุ์ของปลาออกได้เป็น 3 แบบด้วยกันคือ
1. การสืบพันธุ์แบบมีเพศผู้และเพศเมีย
การสืบพันธุ์แบบนี้ ทั้งเพศผู้และเพศเมียจะต้องสร้างเซลล์สืบพันธุ์ คือ ไข่และอสุจิ อาจมีการผสมกันจากภายนอกหรือภายในลำตัวก็ได้ ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วอาจจะฟักออกเป็นตัวภายนอกหรือภายในร่างกายของแม่ก็ได้ อาหารของตัวอ่อนอาจจะอาศัยจากแม่หรือไม่ก็ได้ การสืบพันธุ์แบบนี้อาจแบ่งตามวิธีการฟักและการเจริญของไข่ได้ 3 แบบย่อยคือ
-ปลาที่ออกลูกเป็นไข่ เรียกว่า โอวิพารัส(oviparous) พบได้ในปลากระดูกแข็งทั่วไป ซึ่งจะมีการผสมพันธุ์ภายนอกตัว อาหารของไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะมาจากถุงไข่แดงของตัวมันเอง และจะฟักออกเป็นตัวอ่อนเมื่ออวัยวะต่างๆ เจริญครบแล้ว หน้าตาของตัวอ่อนในระยะแรกอาจจะยังไม่เหมือนพ่อแม่ ลักษณะที่เหมือนพ่อแม่จะอยู่ในวัยลูกปลาขนาดเล็ก ซึ่งต้องผ่านกระบวนการเมตะมอร์โฟซิสมาก่อน และเมื่อเจริญเติบโตต่อไปก็จะเข้าสู่ระยะตัวเต็มวัย
-ปลาที่ออกลูกเป็นตัว เรียกว่า วิวิพารัส(viviparous) พบได้ในปลาฉลามและกระเบนบางชนิด เช่น ฉลามและฉลามหัวค้อนในวงศ์ Carcharinidae ซึ่งเป็นการผสมพันธุ์แบบภายในตัว ไข่ที่ได้รับการผสมแล้วจะได้อาหารจากทางสายเลือดของแม่ คล้ายกับพวกสัตว์ที่เลี้ยงลูกด้วยนม การให้อาหารลูกของฉลามบางชนิด จะให้โดยผ่านทางครีบของลูก หรือผ่านผนังรกไปยังปากและเหงือกของลูกในท้อง กว่าที่ลูกอ่อนของฉลามด็อกฟิชจะครบกำหนดคลอดออกมาเป็นตัว มันต้องอาศัยอยู่ในตัวแม่นานถึง 10 เดือน ลูกอ่อนของฉลามทรายจะฟักอยู่ภายในมดลูกของแม่ อาหารของมันก็จะเป็นไข่ที่ไม่ได้รับการผสมพันธุ์ในตัวแม่
อาหารของลูกปลาทะเลเซิร์ฟเพิร์ช ในวงศ์ Embiotocidae ในขณะที่เป็นตัวอ่อน มันจะได้รับจากแม่โดยผ่านทางครีบขนาดใหญ่ที่ติดอยู่กับผนังมดลูก ปลาในวงศ์ Cyprinodontidae ชนิด Heterdandria Formosa ตัวอ่อนจะเจริญอยู่ภายในฟอลลิเคิลของรังไข่ โดยที่พื้นผิวด้านนอกของตัวอ่อนจะมีเส้นเลือดฝอยมาหล่อเลี้ยง และเนื้อเยื่อรอบหัวใจของปลาหางนกยูง ปลาสี่ตา, Anableps และปลากินยุง จะติดต่ออยู่กับผนังมดลูกของแม่
-ปลาที่ออกลูกเป็นตัวแบบโอโววิวิพารัส(ovoviviparous) อาหารของไข่ที่ผสมแล้วหรือลูกอ่อนที่อยู่ในตัวแม่ จะไม่ได้มาจากแม่โดยตรง แต่จะได้จากถุงไข่แดงของตัวเองเป็นหลัก ยกเว้นน้ำและแร่ธาตุบางชนิดเท่านั้น แต่พวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม อาหารของลูกในท้องจะได้มาทางสายรกและสายสะดือของแม่แบบวิวิพารัส ซึ่งพบได้ในปลาฉลามหลายชนิดที่มีขนาดใหญ่ เช่น ปลาซีลาแคนธ์ ปลาร็อคฟิช ปลากินยุง ปลาหางดาบ
การผสมและปฏิสนธิจากการสืบพันธุ์แบบนี้มักอยู่ภายในตัวเมีย แต่ปลาพวกนี้ก็สามารถนำไข่เก็บไว้ในตัวได้อีกแม้จะมีการปฏิสนธิภายนอกตัว เพื่อเป็นการป้องกันอันตราย ไข่ของปลาดุกทะเลจะมีเส้นผ่านศูนย์กลางของแต่ละฟอง 20 มิลลิเมตร ปลาดุกทะเลตัวผู้ จะอมไข่ไว้ในปากประมาณ 50 ฟอง จนกว่าจะฟักออกเป็นตัว มีการฟักไข่ไว้ในถุงหน้าท้องของม้าน้ำและจิ้มฟันจระเข้ตัวผู้ แต่จิ้มฟันจระเข้ตัวเมีย ในสกุล s จะมีถุงหน้าท้องที่ดัดแปลงมาจากครีบท้อง และจะเก็บไข่ที่ผสมแล้วไว้ในนั้น








ปลาพวกนี้จะมีการพัฒนาของไข่อยู่ภายในมดลูก ซึ่งปลากระดูกอ่อนจะมีมดลูกที่ดัดแปลงมาจากส่วนของท่อนำไข่ ส่วนในปลากระดูกแข็งมดลูกจะดัดแปลงมาจากรังไข่ ไข่จะฟักเป็นตัวภายในมดลูกของแม่ในระหว่างการตั้งครรภ์ ระยะตั้งท้องอาจใช้เวลาเพียง 1-2 วัน และคลอดออกมาเป็นตัวอ่อน ที่เรียกว่า ลาร์วา หรือลูกปลาเล็ก หรือจูวีไนล์(juvenile) พบได้ในปลากระดูกอ่อนแถบเขตร้อนตัวเล็กๆ แต่ในฉลามบางชนิด ระยะตั้งท้องอาจกินเวลานาน 1-2 ปี เพื่อเป็นการปกป้องลูกไม่ให้ได้รับอันตรายจากศัตรู และให้ลูกได้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมที่สุด แต่ลูกปลาทั้งหมดก็จะสูญหายไปด้วยถ้าแม่ปลาถูกจับกิน ขนาดของลูกปลาที่คลอดมาจะใหญ่กว่าลูกปลาที่คลอดแบบโอวิพารัส สามารถหลบหลีกศัตรูด้วยการเคลื่อนไหวได้ และสามารถกินอาหารได้หลากหลาย ธรรมชาติได้สร้างคุณสมบัติเหล่านี้ให้กับมันก็เพื่อเป็นการช่วยรักษาเผ่าพันธุ์เอาไว้ เนื่องจากปลาพวกนี้มีอัตราการสืบพันธุ์ต่ำ การกำเนิดทายาทจึงมีปริมาณน้อยไปด้วย
การออกลูกของปลาแบบโอโววิวิพารัส มีอยู่ด้วยกัน 2 แบบคือ
1. พวกที่ตัวอ่อนใช้อาหารจากไข่แดงของตัวมันเองอย่างเดียวจนกว่าจะฟักเป็นตัว น้ำหนักของลูกที่ออกมาก็จะน้อยกว่าไข่ที่ปฏิสนธิในตอนแรก เช่นในไข่ของปลาสกุล Sebastes
2. พวกที่ตัวอ่อนในครรภ์ได้รับอาหารจากมดลูก ซึ่งอาจใช้ปากกินสารหลั่งจากผนังมดลูก พบได้ในปลากระเบนไฟฟ้า Torpedo หรือรับอาหารจากติ่งที่ยื่นออกมาจากผนังมดลูกแล้วส่งไปที่หลอดคอของลูกทางสไปราเคิล เมื่อคลอดออกมาตัวอ่อนพวกนี้จะมีน้ำหนักมากกว่าไข่ที่ยังไม่ปฏิสนธิถึง 50 เท่า พบได้ในปลากระเบนที่มีหางเป็นแส้ และกระเบนผีเสื้อ หลังจากที่ไข่แดงหมดแล้วปลาในกลุ่มแลมนิดส์ จะพัฒนาฟันขึ้น เมื่อฟักออกมาเป็นตัวอ่อนก็มีความยาวถึง 1 เมตร ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก อาหารของตัวอ่อนที่ฟักออกมารุ่นแรกจะเป็นไข่ที่ยังไม่ได้รับการปฏิสนธิที่แม่หลั่งมาให้ภายหลัง เรียกว่า โอโอฟากี) ต่อจากนั้นพวกน้องๆ ที่ตัวเล็กกว่าในมดลูกของแม่ก็จะถูกมันกินเป็นอาหาร
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การสืบพันธุ์ของปลา
2. การสืบพันธุ์แบบกะเทย
ปลาจะมีทั้งสองเพศอยู่ในตัวเดียวกัน สามารถผสมกันเองได้ภายในตัวด้วยเซลล์สืบพันธุ์ หรือถ้าต้องการแลกเปลี่ยนเซลล์สืบพันธุ์ก็จะมีการผสมข้ามตัว เมื่อฟักออกเป็นตัวในระยะแรกปลาบางชนิดจะมีเพศผู้ และจะกลายเป็นเพศเมียเมื่อโตขึ้นสักระยะหนึ่ง ซึ่งพบได้ในปลาปากกลม ปลากะรังบางชนิด ปลาหลังเขียว ปลาคอด ฯลฯ
เนื้อเยื่อของเพศผู้และเพศเมียของปลาที่เป็นกะเทยจะอยู่ในโกนาดของตัวเดียวกัน โดยเนื้อเยื่อทั้งสองชนิดอาจพบในเวลาเดียวกันหรือคนละเวลาก็ได้ ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 กลุ่มดังนี้
-กะเทยในเวลาเดียวกัน การสร้างเซลล์สืบพันธุ์ของทั้งสองเพศ ปลาพวกนี้สามารถทำได้ในเวลาเดียวกัน ซึ่งในตัวเดียวกันนี้ไข่และอสุจิจะสุกพร้อมที่จะผสมกันได้เลย พบได้ในปลาริวูลัส และปลากะรัง วงศ์ 
-กะเทยที่มีเพศเดียวหรือกะเทยแบบอะซินโครนัส(asynchronous, consecutive หรือคือ มีเพียงเพศเดียวที่สามารถทำงานได้ในแต่ละระยะเวลา ซึ่งแบ่งได้ดังนี้
1. กะเทยโปรแทนดรัส หมายถึง ปลาที่มีโกนาดเป็นอัณฑะ ก่อนที่จะทำหน้าที่เป็นรังไข่ พบลักษณะเช่นนี้ได้ในปลานกแก้ว  วงศ์ ปลาหัวแบน วงศ์  และปลา  วงศ์ เป็นต้น
2. กะเทยโปรโตไจนัส หมายถึง ปลาที่มีโกนาดในตอนแรกเป็นเพศเมีย แล้วเปลี่ยนมาเป็นเพศผู้ในระยะต่อมา พบลักษณะเช่นนี้ได้ในปลากะรังสกุล, และในปลานกแก้วชนิด
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การสืบพันธุ์ของปลา
3. การสืบพันธุ์แบบพาธีโนเจเนซิส(parthenogenesis) หรือไจโนเจเนซิลเป็นการสืบพันธุ์ที่ไข่ไม่ต้องผสมกับอสุจิแต่ก็สามารถมีลูกได้ แต่เพื่อกระตุ้นให้ไข่ของปลาตัวเมียมีการเจริญและพัฒนาการ ตัวเมียก็ยังคงต้องได้รับการผสมพันธุ์จากตัวผู้ การสืบพันธุ์แบบนี้ลูกที่ออกมาจะเป็นเพศเมียทั้งหมด พบได้ในปลาหัวตะกั่ว ปลาสอดสีอะเมซอน

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

การเพาะพันธุ์ปลาหางนกยูง

การดำรงชีวิตของปลากัดเเละประวัติการเเข่งกัดปลากัด